วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฮก

    
     ด้วยเรื่องของอำนาจบารมีที่นิยมกันมากกับอักษรจีน “ฮก” เห็นกันมาก นิยมติดไว้หลังที่นั่งของผู้บริหาร และสถานที่สำคัญต่างๆ ที่น่าแปลกใจ ตรงที่ทำไมต้องติดให้ “หัวลง” นี่สำคัญ บางคนบอกว่า เพื่อเทวดามองลงมาจากสวรรค์จะได้เห็นชัด แต่วันนี้ขอไขข้อกังขาพอเป็นสังเขป ดังนี้


     ตัวอย่าง ประเพณีนิยมอันเก่าแก่ในช่วงตรุษจีนระหว่างคำว่า “福到” ภาษาจีนอ่านว่า เต้าฮก แปลว่า บุญวาสนามาถึงแล้ว และ “福倒“ ภาษาจีนอ่านว่า เต้าฮก เช่นกัน แต่แปลว่าบุญวาสนากลับหัวลง จึงเป็นคำพ้องเสียงกันเท่านั้น

     ในช่วงตรุษจีน คนส่วนใหญ่มักนิยมนำตัวหนังสือคำว่า 福มาติดกลับหัวที่กำแพง ซึ่งหมายถึง โชคลาภความผาสุกได้มาถึงแล้ว
     พูดถึงที่มาของการติดตัว “福”  กลับหัว เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง เรื่องราวเกิดขึ้น ณ บ้านเศรษฐีบ้านหนึ่งกำลังยุ่งกับการจัดบ้านในวันตรุษจีน ในจำนวนนั้นมีสาวใช้คนหนึ่งกำลังติดตัวหนังสือ ด้วยการที่ไม่รู้หนังสือ เธอจึงติดตัว “福” กลับหัว เจ้าของบ้านเห็นเข้าก็โกรธใหญ่ กลัวว่าจะไม่ดีกับครอบครัว คิดจะลงโทษสาวใช้ แต่พ่อบ้านซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดี จึงคิดที่จะหาวิธีช่วยสาวใช้คนนั้น พ่อบ้านจึงบอกกับเจ้าของบ้านว่า “福” กลับหัว หมายถึง บุญวาสนา ความผาสุกได้มาถึงแล้ว มันเป็นความหมายและนิมิตที่ดี เมื่อเจ้าบ้านได้ฟังก็ดีใจ ไม่เพียงไม่ลงโทษสาวใช้ กลับให้รางวัลสาวใช้ผู้นั้นอีก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เริ่มแพร่หลายมาจนทุกวันนี้

กระจกนูน

 ลักษณะไม่เป็นมงคล (เฮ่งสัวะ)

ใช้กระจกนูนหรือกระจกเว้า พร้อมยันต์แปดทิศบนเนื้อกระจก


▪กระจกนูน ช่วยสลายสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้สลายออกไป และแปรเปลี่ยนลักษณะไม่ดีให้รูปร่างเปลี่ยนไป
▪ยันต์ 8ทิศ (โป๊ยก่วย) เป็นเครื่องหมายของพลังจักรวาลทั้งหลาย จึงเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งในโลก ทำให้ภายในบริเวณนั้นเกิดความสมดุลขึ้น
▪กระจกนูนภายในมียันต์ 8ทิศ จึงมีอานุภาพสารพัดประโยชน์ ที่ช่วยป้องกันและสลายความชั่วร้ายต่างๆได้ บ้านที่เจอสิ่งไม่เป็นมงคล เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า เสาไฟฟ้า ทางสามแพร่งพุ่งชน บ้านร้าง ตึกสูงใหญ่ข่มเรา ช่องลม วัด เมรุ โบสถ์ เจดีย์ โรงเจ สะพานลอย ป้ายโฆษณาพุ่งชน หินน่ากลัว ฯลฯ กระจกนูน ยันต์ 8ทิศ จัดทำพิเศษให้ยันต์ 8ทิศ เป็นเนื้อเดียวกันกับกระจกนูน จึงมีพลัง ช่วยสลาย สิ่งชั่วร้ายให้กระจายออกไป
กระจกนูนมี               ขนาด   8 นิ้ว ราคา    600 บาท (ไม่มีขอบ)                          
                              ขนาด 10 นิ้ว ราคา 1,200 บาท (ไม่มีขอบ)                      
                              ขนาด 12 นิ้ว ราคา 2,200 บาท (มีขอบ)                          
                              ขนาด 18 นิ้ว ราคา 3,200 บาท (มีขอบ)
กระจกเว้ามี            ขนาด 12 นิ้ว ราคา 2,800บาท เพื่อสะท้อนลักษณะที่ไม่เป็นมงคลตามหลักฮวงจุ้ย

 ปลุกเสกโดย พระราชวิสิทธิวิมล (อเนก ฐานิส̣สโร ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี วัดใหญ่อินทาราม


สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

คุณสมบัติของน้ำเต้า

คุณสมบัติของน้ำเต้า

                น้ำเต้าตามหลักฮวงจุ้ย นิยมแขวนไว้ในบ้านหรือที่ทำงาน เพื่อไล่สิ่งไม่เป็นมงคลทั้งหลาย นิยมแขวนหรือวางตรงตำแหน่งที่ต้องการ แขวนไว้ด้วยเชือกแดง ที่ถักลายมงคลจีน แก้ไขให้บริเวณนั้นดีขึ้น อาทิเช่น



     -          ประตุห้องน้ำตรงกับเตาครัว ให้แขวนน้ำเต้าที่หน้าประตูห้องน้ำ
     -          ห้องน้ำผิดตำแหน่ง ให้แขวนหรือวางน้ำเต้าภายในห้องน้ำ
     -          ประตู 2บานตรงกัน ให้แขวนน้ำเต้าที่หน้าประตูบานใดบานหนึ่ง
     -          นอนไม่หลับ ฝันไม่ดี ผีร้ายรบกวน ให้แขวนหรือวางน้ำเต้าไว้หัวนอน
     -          ชั้นบนเป็นห้องน้ำ ชั้นล่างเป็นเตาครัว ให้แขวนน้ำเต้าไว้บนเตาครัว หรือวางไว้ในห้องน้ำ
     -          เจ็บป่วยบ่อยไม่มีสาเหตุ ให้แขวนน้ำเต้าไว้หน้าบ้าน  ฯลฯ




สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

ความเชื่อเกี่ยวกับเสือคาบดาบ

เสือคาบดาบแก้ฮวงจุ้ยไม่ได้ ช่วยหยุดทรมานเสือได้บุญกุศลแรง

     ผู้ที่นำภาพเสือไปติดหน้าบ้านนั้น บ้านตรงกันข้ามก็จะได้รับผลกระทบแน่นอน จากการที่เห็นภาพเสือทุกวันๆ ก็จะเกิดความเครียดขึ้น

     มีข้อห้ามสำหรับบ้านที่ไม่ควรติดหัวเสือโดยเด็ดขาดคือ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้ เด็กวัยรุ่นภายในบ้านไม่แข็งแรง สุขภาพไม่ดี ใจแตก เพราะเสือนั้นจะทำร้ายคนในบ้านเอง เนื่องเพราะ บ้านเป็นธาตุดิน เสือธาตุไม้ จึงพิฆาตดิน อีกทิศก็คือ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะทำให้ แม่หรือผู้หญิงภายในบ่านป่วยบ่อย สุขภาพไม่แข็งแรง แท้งลูกง่าย ผู้หญิงไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องเพราะ ธาตุไม้ของเสือทำร้ายธาตุดินของบ้านเช่นกัน

     เสือไม่มีกำลังที่จะทำอะไรได้ เมื่อนำไปติดหน้าบ้านที่หันไปสู่ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะถูกธาตุทองของบ้านควบคุมไว้ ส่วนทิศที่เหลือนั้นติดได้

     ข้อสังเกต เป็นความผิดพลาดของคนไทยเรา คือ “เสือคาบดาบ” บันทึกของลู่ปังกล่าวไว้ว่า ภาพเสือไม่มีอะไรคาบไว้ เป็นภาพเสือเฉยๆเท่านั้น แต่เสือคาบดาบที่คนไทยใช้อยู่ทุกวันนี้ไม่มีที่มา แล้วผู้คนก็พากันเฮโลตามกันไปโดยไม่มีเหตุผล เป็นความซาดิสต์ของใครบางคน ที่ออกแบบเลียนแบบภาพราหูอมจันทร์ แล้วเปลี่ยนพระจันทร์เป็นดาบแทน หลังจากนั้นมีนักฮวงจุ้ยที่ไม่เข้าใจ คิดว่าของสิ่งนี้แหละบันดาลโชคลาภได้

สุดยอดของวิชาฮวงจุ้ยว่าไว้ว่า “อู่เอ้งปิกอู่ขี” (มีลักษณะก็จะเกิดพลัง) มีความหมายว่า ที่ใดมีลักษณะอย่างไร ก็จะเกิดอย่างนั้น มีภาพเทพเจ้าที่มีความเมตตากรุณาอยู่ด้านหน้าทุกวัน ก็จะเกิด นะเมตตาขึ้นกับผู้ที่ได้พบเห็น ถ้าเกิดมีของแหลมจี้อยู่ที่ตา เราก็จะเกิดอาการเสียวแปล๊บๆด้วย นั้นเป็นพลังจากลักษณะที่เกิด ถ้าจะอาศัยพลังของเสือ เสือต้องไม่บาดเจ็บ โดยเฉพาะเสือที่มีดาบเสียบอยู่ มีบางคนกล่าวไว้ว่า ติดเสือคาบดาบแล้ว บางครั้งจะได้ยินเสือร้องโฮกๆ ตอนกลางคืน แสดงว่ามีอิทธิฤทธิ์ แต่ความจริงเสือมันเจ็บมันถึงได้ร้องขึ้น ทดสอบได้ง่ายๆ โดยใครก็ได้ลองคาบดาบดูว่ายังสบายดีอยู่รึเปล่า

     บัดนี้ได้โอกาสแล้วที่คนไทยทุกคน จะหยุดยั้งความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลซะที เพราะในวิชาฮวงจุ้ย(ของแท้) กล่าวว่า เสือคาบดาบนั้น ตัวเสอบาดเจ็บมาก เป็นการทำร้ายเสือ ผู้ที่เกิดปีเสือ ถ้านำภาพเสือคาบดาบมาใช้ ก็เท่ากับทำร้ายปีเกิดของตัวเอง ไม่มีเสือตัวไหนจะทนทานเหล็กโลหะที่คาบอยู่ในปากได้ ช่วยหยุด!!และคืนตวามเป็นอิสระให้กับเสือเสียที ขอวิงวอนให้ผู้ที่ทำรูปเสือคาบดาบนั้น เลิกและถอนดาบออกจากปากเสือจะเป็นบุญกุศลเป็นอย่างมาก

     อย่างน้อยดวงเมืองไทยของเราก็เป็นปีเสือเหมือนกัน ถ้าเรามาช่วยกันแล้ว เมืองไทยจะฟื้นเร็วขึ้นอย่างแน่นอน

สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

แนะนำฮวงจุ้ย


แนะนำฮวงจุ้ย
'ฮวงจุ้ย' ในภาษาจีน แปลว่า ลม และ น้ำ เป็นวิทยาศาสตร์ของจีนโบราณที่มีมากว่า 4 พันปีซึ่งมีรากฐานมาจากปรัชญาของจีน ที่ว่า ทุกสิ่งในสากลโลกนี้จะประกอบด้วยธาตุพื้นฐาน 5 ธาตุ คือ ทอง น้ำ ไม้ ไฟ และ ดิน แต่ละธาตุจะมีทั้งพลังหยิน ( negative energy)และพลังหยาง ( positive energy) ดังนั้น ฮวงจุ้ย จึงเป็นวิชาที่ช่วยให้เราจัดสภาพแวดล้อมที่ก่อเกิดความสมดุลของธาตุเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตมีความสุขทั้งทางกาย(มั่งคั่ง,สุขภาพ)และจิตใจ (- อาจารย์ไอรีน ออง )
ดังนั้นฮวงจุ้ยจึงไม่ใช่วิชาไสยศาสตร์แต่เป็นวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการพิสูจน์ มาแล้วนับพันปี ดังที่เราประจักษ์อยู่แล้วกับความยิ่งใหญ่ของประเทศต้นกำเนิดฮวง จุ้ย(จีน)ว่ายังคงยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมานับปัจจุบัน แม้ว่าปัจจุบันจะมีออกมาหลายสำนัก หลายแนวทางให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาและใช้บริการต่างๆ แต่ทุกสำนักล้วนมีสิ่งยึดมั่นที่เหมือนกันก็คือไม่ทิ้งหลักปรัชญาดั้งเดิม นั่นคือเรื่องความสมดุลของธาตุ เพียงแต่เนื้อหาสาระการให้ความสำคัญในแต่ละวิชาของฮวงจุ้ยนั้นอาจแตกต่างกัน ไปเพราะฮวงจุ้ยเองมีหลากหลายวิชาที่ตกทอดกัน ตัวเราเองผู้ที่สนใจในศาสตร์ฮวงจุ้ยและอยากจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันจึงควร ใช้วิจารณญาณและพิสูจน์ด้วยตนเอง ซึ่งหลักการง่ายๆที่กนกอรเองได้รับการถ่ายทอดมาจาก อาจารย์ไอรีน และ อาจารย์ทรัพย์ ที่น่าสนใจคือ หลักการไหนที่นำมาใช้แล้วได้ผล หลักการนั้นเป็นจริง จึงอยากแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจไว้เบื้องต้น



สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

ประวัติฮวงจุ้ย



4477 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยฮกฮีสี ได้เกิดเครื่องหมาย 8 ตัวขึ้น ( โป๊ยก่วย ) ซึ่งเป็นการบันทึกการเกิดของสภาพธรรมชาติในเรื่องของ ลม ฟ้า อากาศ
 2697 ปีก่อนค.ศ.
สมัยอึ้งตี่เกิดเข็มทิศขึ้น โดยสามารถรู้ว่าทิศเหนือจะอยู่ในตำแหน่งที่แม่เหล็กดึงไปเสมอ
ในองศาที่ 360 องศา และได้นำเครื่องหมาย 8 ตัว เข้ามาวางไว้ในตำแหน่งของเข็มทิศ เป็นที่มาของ
จานเข็มทิศ ( ล่อแก / หล่อแก )

2205 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยแฮ่อู้ (แห่อู้) สมัยจักรพรรดิเงี้ยว เกิดอุทกภัยใหญ่ขึ้น
แฮ่อู้ ให้หลักการชัยภูมิและเครื่องหมาย 8 ตัว หรือ 8 ทิศของฮกฮีสี
และอึ้งตี่ คิดแก้ระบบดึงและเก็บกักกระแสน้ำมาแก้ไขปัญหาสำเร็จได้ กลายเป็นต้นแบบระบบ ชลประทาน

1134 ปีก่อนค.ศ.
สมัยจิวบุ้นอ๊วง ได้รวบรวมเครื่องหมาย 8 ตัวมารวมเป็นคู่ ๆ
ได้ทั้งหมด 64 คู่ เกิดเป็นระบบเสี่ยงทาย ( ป๊กก่วย ) ที่แม่นยำ
นำมาใช้สำหรับการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน โดยดูจากปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
206 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยฮั้งเกาโจ้ว วิชา ฮวงจุ้ย ได้สืบทอดมาเรื่อย ๆ ในสมัยนี้เกิดการชิงที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ระหว่าง เล่าปัง กับ หั่งอู้
แม่ทัพใหญ่ของจักรพรรดิจิ๋นซี

โดยเตียวเลี้ยงได้ใช้ วิชาฮวงจุ้ย สร้างสุสานทำให้เล่าปัง ซึ่งเดิมเป็นชายพเนจรกลายเป็นใหญ่ในที่สุด
วิชาฮวงจุ้ย จึงสมบูรณ์แบบในยุคนี้ และได้กำหนดให้เป็นวิชาแห่งชาติ ใช้สำหรับผู้มีศักดิ์ตระกูลเท่านั้น
ค.ศ. 1368
สมัยเม่งไท้โจว ในราชวงศ์หมิงเกิดการชิงแผ่นดินขึ้นระหว่าง
ตั้งอิ๋วเหลียง กับ จูง่วนเจียง

เล่าแป๊ะอุง กุนซือ ได้ช่วยให้จูง่วนเจียงทำการสำเร็จได้ โดยใช้วิธีการสร้าง สุสาน

แต่แผ่นดินหมิงก็ถูกล้มล้างโดยพวกแมนจู
โดยวิธีการสร้าง สุสาน เช่นกัน และพวกแมนจูก็ถูกพวกซุนยัดเซ็นล้มไปโดยวิธีการของ สุสาน


วิชาฮวงจุ้ย ประกอบไปด้วย 4 วิชาหลัก คือ
  1. ชัยภูมิ
  2. ดวงชะตา
  3. ทิศทาง ( ดาว 9 ยุค / 8 ทิศ / ... )
  4. ฤกษ์ยาม
     
โดยทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกัน หากขาดเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดก็จะสัมฤทธิ์ผลได้ยาก
และการปรับ ดวงชะตา ด้วยวิชาฮวงจุ้ยนั้นมีมาตั้งแต่แรก

ดังจะเห็นได้ จากกรณีของเล่าปัง และหั่งอู้ หรือกรณีของ ตั้งอิ๋วเหลียง กับจูง่วนเจียง ล้วนแต่ใช้สุสานเป็นส่วนเสริม ดวงชะตา ให้ดีขึ้นมาได้
ในปัจจุบัน เราอาจสามารถ ปรับดวงชะตา ได้จาก ทิศหลังบ้าน ทิศหัวนอน ทิศอิงโต๊ะทำงาน หรือการตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทิศที่ดวงต้องการ และการจัดหรือ ปรับสภาพต่าง ๆ ต้องสอดคล้อง
กับชีวิตประจำวัน จึงจะถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดีและถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม วิชาฮวงจุ้ย เป็นเพียงส่วนประกอบของความสำเร็จส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้น
ดังคำกล่าวที่ว่า

1. อิก เต็ก ( คุณธรรม - คิดดี )
2. ยี่ เห็ง ( จริยธรรม - ทำดี )
3. ซา ฮวงจุ้ย ( อยู่ดี )
สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877