วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เทพผู้คุ้มครองดวงชะตาประจำปี 2555

“เทพเจ้าไท้ส่วย”
เทพผู้คุ้มครองดวงชะตาประจำปี 2555


ทรงนามว่า “แผ่ไท่ไต่เจียงกุง”

     องค์ไท้ส่วย หรือ เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา นี้ เป็นเทพผู้ทรงสิทธิ์ ดูแลชะตาชีวิตของผู้คนในแต่ละปี
     ในรอบ 60 ปีนี้ จะมีเทพเจ้าไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี ซึ่งจะมีชื่อเรียกขานต่างๆกัน รวมทั้งสิ้นถึง 60 องค์ ทำหน้าที่รักษา และคุ้มครองดวงปี หรือเรียกว่า “เฝ้าปี” อยู่ ซึ่งก็จะถือว่าแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณดลบันดาลความสุข โชคเคราะห์ทุกข์ภัยหรือให้โทษ แก่ผู้ใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีเคราะห์หรือดวงชะตาอ่อน ทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่นสมหวัง ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัย บังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวท่านและครอบครัว
     ประเพณีปฏิบัติในการไหว้ฝากดวงชะตาต่อองค์ไท้ส่วยในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ (ตรุษจีน) ของทุกๆปี เพื่อให้ท่านที่มีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วจะได้ดียิ่งๆขึ้น ส่วนท่านที่ดวงชะตาตกก็จะไม่ย่ำแย่เกินไปนัก โดยเฉพาะท่านที่เกิดปีที่มีปัญหาชงกับองค์ไท้ส่วย ทับไท้ส่วย และปีร่วมชงไท้ส่วย ซึ่งในแต่ละปีก็จะแตกต่างกันไป
     ในปีนี้ผู้ที่ควรไหว้องค์ไท้ส่วย คือ ท่านที่เกิดปีจอ (ชงโดยตรงกับองค์ไท้ส่วย) ท่านที่เกิดปีมะโรง (ทับไท้ส่วย) ปีฉลู ปีมะแม (ปีร่วมชง) และท่านที่เกิดในปีนักษัตรดังต่อไปนี้ ควรพกพาจี้องค์ไท้ส่วยประจำปี 2555 (องค์แผ่ไท่ไต่เจียงกุง) เพื่อคุ้มครองดวงชะตาท่านตลอดปี

1.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2462 อายุ 93 ปี เป็นปีมะแม
2.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2471 อายุ 84 ปี เป็นปีมะโรง
3.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2480 อายุ 75 ปี เป็นปีฉลู
4.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2489 อายุ 66 ปี เป็นปีจอ
5.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2504 อายุ 51 ปี เป็นปีฉลู
6.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2513 อายุ 42 ปี เป็นปีจอ
7.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2522 อายุ 33 ปี เป็นปีมะแม
8.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2531 อายุ 24 ปี เป็นปีมะโรง
9.       ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2540 อายุ 15 ปี เป็นปีฉลู
10.   ท่านที่เกิดปี พ.ศ. 2549 อายุ   6 ปี เป็นปีจอ

     สำหรับผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. ดังที่กล่าวมานี้ ในปีนี้ห้ามเป็นเจ้าภาพหรือเข้าร่วมพิธีในงานศพ และควรหลีกเลี่ยงการไปงานศพ แต่หากท่านไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ขอให้ละเว้นการไปดูศพเวลาฝังหรือแม้แต่การส่งศพ เพราะทั้ง 10 ปีนี้เป็น “ไท้ส่วยเฮี้ยบจี่จู้” แปลว่า ไท้ส่วยตรงเจ้าพิธี นอกจากจะนำพาสิ่งอัปมงคลทั้งหลายมาให้แล้ว ยังถือเป็นการหมิ่นและลบหลู่ต่อองค์ไท้ส่วยอีกด้วย
ส่วนปีเกิดนอกเหนือจากนี้ ก็ควรไหว้องค์ไท้ส่วยประจำปี 2555 ด้วย เพราะถือเป็นเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ที่จรมาประจำปีนี้และเป็นมงคลคุ้มครองป้องกัน ปัดเป่าความโชคร้ายมัวหมองให้ผ่านพ้นปีนี้ไป
     โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2555 นี้ บ้านที่หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เฉพาะในตำแหน่ง 292-307 องศา และตำแหน่งทิศตะวันออกเฉียงใต้เฉพาะตำแหน่ง 辰 112-127 องศา ห้ามกระทบหรือขุดเจาะดินในบริเวณนี้ เหมือนเปิดศึกท้รบกับองค์ไท้ส่วย จะทำให้ทรัพย์สมบัติเก็บไม่อยู่ มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง สุขภาพไม่ดี

วันที่ควรเริ่มไหว้องค์ไท้ส่วย ประจำปี 2555
“แผ่ไท่ไต่เจียงกุง”


1 กุมภาพันธ์ 2555 , 1 เมษายน 2555 , 31 พฤษภาคม 2555 , 30 กรกฎาคม 2555 , 28 กันยายน 2555 , 27 พฤศจิกายน 2555
( เลือกไหว้วันใดวันหนึ่ง แล้วแต่สะดวก และควรไหว้ในช่วงเวลาเช้าอย่าให้เกินเที่ยง )

เครื่องบูชาเทพเจ้าไท้ส่วยมีดังนี้
1.       ธูป 3 ดอก
2.       เทียนแดง 1 คู่
3.       แจกันพร้อมดอกไม้สด 1 คู่
4.       หงิงเตี๋ย 13 ชุด
5.       เทียงเถ่าจี้ 1 ชุด
6.       กิมหงิงเต้า 1 คู่
7.       ข้าวสวย 5 ถ้วย
8.       น่ำชา 5 ถ้วย
9.       หมูกรอบ 1 จาน หรือ เจไฉ่ 5 อย่าง
10.    ถั่วลิสง 25 เม็ด
11.    ขนมโก๋ 5 ชิ้น
12.   พุทราแดง 25 เม็ด (อั่งจ้อ)


วิธีการไหว้สะเดาะห์เคราะห์ คลิกที่นี่
วิธีการไหว้เสริมดวงเสริมบารมี คลิกที่นี่
แจกฟรียันต์ไท้ส่วย แก้ปีชง ปีทับ เสริมดวง คลิกที่นี่


สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877



วันส่งจ้าขึ้นสวรรค์


วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์
เป็นวันจับหยี่ห่วยหยีจับสี่ ตรงกับวันที่ 24 เดือน 12 ของจีน ไหว้ตั้งแต่เวลา 05.00 – 09.00 น. การส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ ประเพณีแต่โบราณเป็นการส่งเจ้าเตาขึ้นสวรรค์ แต่ปัจจุบันไม่นิยมไหว้เจ้าเตากันจึงเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ แทนการไหว้เทพเจ้าเตา แต่ก็ยังมีผู้ที่ไหว้เจ้าเตาอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นไม่ว่าท่านจะไหว้เทพเจ้าหรือเจ้าเตาก็ตาม ถือเป็นการส่งเจ้าขึ้นสวรรค์นั้นเอง ซึ่งเทพเจ้าจะขึ้นสวรรค์กันหมด ยกเว้นแต่ตี่จู๋เอี้ยเท่านั้นที่อยู่ปกปัก รักษาดูแลภายในบ้านในช่วงที่เจ้าขึ้นสวรรค์

เครื่องบูชาส่งเจ้าขึ้นสวรรค์

1.       กระถางธูปบรรจุผงธูป พร้อมแพแดงและหางนกยูงใหม่
2.       ธูป 3 หรือ 5 ดอก
3.       แจกันใส่ดอกไม้สดหรือพวงมาลัยก็ได้
4.       กระทงใส่ค้อซี
-           กระทงกระดาษ 1 ใบ
-           ค้อซี คือ กระดาษเงินกระดาษทอง พับเป็นรูปทองเป็นวงกลม
-           คำมงคลวางบนค้อซี (จะมีหรือไม่มีก็ได้)
5.       ส้ม 5 ผล
6.       ข้าวสาร 1 จาน (ต้องตั้งไว้จนกว่าเจ้าจะลงมาจากสวรรค์)
7.       น้ำเปล่า 1 แก้ว
8.       แป้งข้าวเหนียวทอดโดยนำแปะทึ้ง (น้ำตาลแดง) มาวางข้างๆ
9.       กระดาษสีแดงวางข้างๆเขียนชื่อของเจ้าเตา


สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

ประวัติตี่จู่เอี๊ย

ประวัติตี่จู๋เอี้ย

      ตี่จู๋เอี้ย มีชื่อเรียกกันอีกว่า ตี่จู๋เอี่ยกง โท่วตี่เอี๊ย โท่วตี่กง ฮกเต็กซื้อ หรือ โฮ่วโท่วก็เรียก ฮกเต็กซื้อ โฮ่วโท่ว หรือ ฮกเต็กเจี้ยซิ้ง
      ตำนานเล่าขานกันว่า โหว โท่ว หรือโท่วตี่กง มีประวัติความเป็นมาจากมนุษย์ คือ ในสมัยราชวงศ์จิว (ก่อน พ.ศ.578- พ.ศ.288) มีชายคนหนึ่งชื่อว่า เตียเม่งเต็กเป็นคนรับใช้คหบดีคนหนึ่งในสมัยนั้น ท่านคหบดีได้เดินทางไปทำธุระที่แดนไกล ได้สั่งเตียเม่งเต็กช่วยนำพาบุตรีที่เยาว์วัยของท่านไปพบท่านขณะที่เตียเม่ง เต็กเดินทางนำบุตรีของท่านไปส่งท่านคหบดีนั้น ในระหว่างทางเกิดพายุหิมะตกหนัก เตียเม่งเต็กเห็นบุตรีของท่านคหบดียังเด็ก ร่างกายไม่สามารถต่อต้านกับอากาศอันหนาวเยือก จึงได้ถอดเสื้อผ้าของตนออกมาคลุมสวมใส่ให้บุตรีของท่านคหบดี ตัวเตียเม่งเต็กทนความหนาวไม่ได้ก็หนาวตาย
      ขณะที่จะสิ้นใจนั้น ปรากฏว่าเบื้องบนนภามีหนังสือฉายออกมา 8ตัว “น่ำเทียงมึ้งไต่เซียงฮกเต็กซิ้ง” แปลว่า ฮกเต็กซิ้งเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งประตูสวรรค์ด้านทิศใต้ เมื่อท่านคหบดีกลับมาเห็นความชื่อสัตย์และความเสียสละของเตีงเม่งเต็ก จึงได้สร้างศาลเจ้าให้เตียเม่งเต็กเป็นการตอบแทนพระคุณ ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าจิวบู่อ้วงทรงแต่งตั้งให้เป็นเทพโหวโท่ว และเรียกกันภายหลังว่า โท่วตี่กง
      ตี่จู๋เอี๊ย หรือ โท่วตี่กง จัดเป็น เทพเจ้าที่มีตำแหน่งต่ำ แต่ เป็นเทพเจ้าที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์ที่สุด ต่อมามนุษย์ให้ความนับถือเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ โดยมากมักวาดหรือทำเป็นรูปลักษณ์ของชายมีอายุ หนวดเครา เผ้าผมขาวเป็นสีเงินยวง หน้าตาอิ่มเอิบท่าทางใจดี ตี่จู๋เอี๊ยที่มีพื้นที่รับผิดชอบใหญ่หน่อย บางครั้งก็เรียก แป๊ะกง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเจ้าที่ตามหมู่บ้าน
      เมื่อสมัยที่พระเจ้าจูง่วงเจียงฮ่องเต้ (พ.ศ.1911 - 1941) ขึ้งครองราชย์ ทรงถอดยศถอดศักดิ์ของโท่วตี่ซิ้งจำนวนมาก ดังนั้นโท่วตี่ซิ้งจึงเรียกชื่อตามสถานที่นั้นๆ ตามอย่างชื่อตำแหน่งขุนนางปกครองของสถานที่ต่างๆ กล่าวกันว่า มีอยู่ครั้งหนี่ง พระเจ้าเม่งไท้โจ้วทรงเสด็จประพาส ทรงพบขุนนางปกครองท้องถิ่นคนหนึ่ง นัดกันไปเสวยเหล้าที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เผอิญโรงเตี้ยมวันนั้นคนแน่นมากทรงทอดพระเนตรเห็นมีโต๊ะๆ หนึ่งวางที่บูชาของโท่วตี่ซิ้ง พระองค์ทรงหยิบป้ายบูชาของโท่วตี่ซิ้งวางลงพื้น และนำโต๊ะนั้นไปเสวยเหล้า ภานหลังจากที่พระเจ้าเม่งไท้โจ้วทรงเสด็จกลับไปแล้ว เจ้าของโรงเตี๊ยมได้นำป้ายบูชาของโท่วตี่ซิ้งนำมาตั้งไว้บนโต๊ะดังเก่า เทพโท่วตี่ซิ้งได้มาเข้าฝันกล่าวกับขุนนางนักปกครองท้องถิ่นว่า 'เจ้าเหนือหัวทรงมีรับสั่งให้ข้าไม่ให้นั่งบนที่สูง”
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนจึงนิยมตั้งโท่วตี่เอี้ยอยู่ติดกับพื้นดิน


วันเกิดตี่จู๋เอี้ย

เป็นวันหยีห่วยชิวหยี วันที่ 2เดือน 2ของจีน ไหว้ตั้งแต่เช้า - ก่อนเที่ยง

ของไหว้
                1. กระถางธูป                                    
                2.เทียน 1คู่                                      
                3. ธูป 5ดอก
                4.แจกันดอกไม้สด หรือพวงมาลัยสด
                5. ผลไม้ 5อย่าง (ถ้าไม่สะดวกส้มอย่างเดียวก็ได้)
                6. น้ำชา 5ถ้วย
                7.หงิ่งเตี๋ย 12คู่
                8.เทียงเถ้าจี้ 1ชุด
                9. กิมหงิ่งเต้า 1คู่

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

เทศกาลไหว้ขนมอี้

ไหว้สารทขนมอี้ (ตังโจ่ย)

วันเปลี่ยนเทศกาลเป็นฤดูหนาว จับอิกห่วย เดือน 11 ของจีน
ไหว้พระ เจ้า ตี่จู้เอี๊ย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน นอกบ้าน และเทวดาฟ้าดินด้วยขนมอี้
ไหว้ขนม ' อี้ ' (บัวลอย) ทำด้วยแป้งกลมๆขนาดเล็ก มีสีขาวและสีแดง ซึ่งหมายถึงเดือนและตะวัน เพื่อระลึกถึงการสิ้นปีและระลึกถึงการหมุนเวียนของดวงอาทิตย์และพระจันทร์

ของไหว้

1.กระถางธูป
2.เทียนแดง 1 คู่
3.ธูป 3 หรือ 5 ดอก
4.แจกันดอกไม้สดหรือพวงมาลัย
5.น้ำชา 5 ถ้วย
6.ขนมอี้ 5 ถ้วย

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ฮก

    
     ด้วยเรื่องของอำนาจบารมีที่นิยมกันมากกับอักษรจีน “ฮก” เห็นกันมาก นิยมติดไว้หลังที่นั่งของผู้บริหาร และสถานที่สำคัญต่างๆ ที่น่าแปลกใจ ตรงที่ทำไมต้องติดให้ “หัวลง” นี่สำคัญ บางคนบอกว่า เพื่อเทวดามองลงมาจากสวรรค์จะได้เห็นชัด แต่วันนี้ขอไขข้อกังขาพอเป็นสังเขป ดังนี้


     ตัวอย่าง ประเพณีนิยมอันเก่าแก่ในช่วงตรุษจีนระหว่างคำว่า “福到” ภาษาจีนอ่านว่า เต้าฮก แปลว่า บุญวาสนามาถึงแล้ว และ “福倒“ ภาษาจีนอ่านว่า เต้าฮก เช่นกัน แต่แปลว่าบุญวาสนากลับหัวลง จึงเป็นคำพ้องเสียงกันเท่านั้น

     ในช่วงตรุษจีน คนส่วนใหญ่มักนิยมนำตัวหนังสือคำว่า 福มาติดกลับหัวที่กำแพง ซึ่งหมายถึง โชคลาภความผาสุกได้มาถึงแล้ว
     พูดถึงที่มาของการติดตัว “福”  กลับหัว เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง เรื่องราวเกิดขึ้น ณ บ้านเศรษฐีบ้านหนึ่งกำลังยุ่งกับการจัดบ้านในวันตรุษจีน ในจำนวนนั้นมีสาวใช้คนหนึ่งกำลังติดตัวหนังสือ ด้วยการที่ไม่รู้หนังสือ เธอจึงติดตัว “福” กลับหัว เจ้าของบ้านเห็นเข้าก็โกรธใหญ่ กลัวว่าจะไม่ดีกับครอบครัว คิดจะลงโทษสาวใช้ แต่พ่อบ้านซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดี จึงคิดที่จะหาวิธีช่วยสาวใช้คนนั้น พ่อบ้านจึงบอกกับเจ้าของบ้านว่า “福” กลับหัว หมายถึง บุญวาสนา ความผาสุกได้มาถึงแล้ว มันเป็นความหมายและนิมิตที่ดี เมื่อเจ้าบ้านได้ฟังก็ดีใจ ไม่เพียงไม่ลงโทษสาวใช้ กลับให้รางวัลสาวใช้ผู้นั้นอีก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เริ่มแพร่หลายมาจนทุกวันนี้

กระจกนูน

 ลักษณะไม่เป็นมงคล (เฮ่งสัวะ)

ใช้กระจกนูนหรือกระจกเว้า พร้อมยันต์แปดทิศบนเนื้อกระจก


▪กระจกนูน ช่วยสลายสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้สลายออกไป และแปรเปลี่ยนลักษณะไม่ดีให้รูปร่างเปลี่ยนไป
▪ยันต์ 8ทิศ (โป๊ยก่วย) เป็นเครื่องหมายของพลังจักรวาลทั้งหลาย จึงเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งในโลก ทำให้ภายในบริเวณนั้นเกิดความสมดุลขึ้น
▪กระจกนูนภายในมียันต์ 8ทิศ จึงมีอานุภาพสารพัดประโยชน์ ที่ช่วยป้องกันและสลายความชั่วร้ายต่างๆได้ บ้านที่เจอสิ่งไม่เป็นมงคล เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า เสาไฟฟ้า ทางสามแพร่งพุ่งชน บ้านร้าง ตึกสูงใหญ่ข่มเรา ช่องลม วัด เมรุ โบสถ์ เจดีย์ โรงเจ สะพานลอย ป้ายโฆษณาพุ่งชน หินน่ากลัว ฯลฯ กระจกนูน ยันต์ 8ทิศ จัดทำพิเศษให้ยันต์ 8ทิศ เป็นเนื้อเดียวกันกับกระจกนูน จึงมีพลัง ช่วยสลาย สิ่งชั่วร้ายให้กระจายออกไป
กระจกนูนมี               ขนาด   8 นิ้ว ราคา    600 บาท (ไม่มีขอบ)                          
                              ขนาด 10 นิ้ว ราคา 1,200 บาท (ไม่มีขอบ)                      
                              ขนาด 12 นิ้ว ราคา 2,200 บาท (มีขอบ)                          
                              ขนาด 18 นิ้ว ราคา 3,200 บาท (มีขอบ)
กระจกเว้ามี            ขนาด 12 นิ้ว ราคา 2,800บาท เพื่อสะท้อนลักษณะที่ไม่เป็นมงคลตามหลักฮวงจุ้ย

 ปลุกเสกโดย พระราชวิสิทธิวิมล (อเนก ฐานิส̣สโร ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี วัดใหญ่อินทาราม


สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

คุณสมบัติของน้ำเต้า

คุณสมบัติของน้ำเต้า

                น้ำเต้าตามหลักฮวงจุ้ย นิยมแขวนไว้ในบ้านหรือที่ทำงาน เพื่อไล่สิ่งไม่เป็นมงคลทั้งหลาย นิยมแขวนหรือวางตรงตำแหน่งที่ต้องการ แขวนไว้ด้วยเชือกแดง ที่ถักลายมงคลจีน แก้ไขให้บริเวณนั้นดีขึ้น อาทิเช่น



     -          ประตุห้องน้ำตรงกับเตาครัว ให้แขวนน้ำเต้าที่หน้าประตูห้องน้ำ
     -          ห้องน้ำผิดตำแหน่ง ให้แขวนหรือวางน้ำเต้าภายในห้องน้ำ
     -          ประตู 2บานตรงกัน ให้แขวนน้ำเต้าที่หน้าประตูบานใดบานหนึ่ง
     -          นอนไม่หลับ ฝันไม่ดี ผีร้ายรบกวน ให้แขวนหรือวางน้ำเต้าไว้หัวนอน
     -          ชั้นบนเป็นห้องน้ำ ชั้นล่างเป็นเตาครัว ให้แขวนน้ำเต้าไว้บนเตาครัว หรือวางไว้ในห้องน้ำ
     -          เจ็บป่วยบ่อยไม่มีสาเหตุ ให้แขวนน้ำเต้าไว้หน้าบ้าน  ฯลฯ




สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

ความเชื่อเกี่ยวกับเสือคาบดาบ

เสือคาบดาบแก้ฮวงจุ้ยไม่ได้ ช่วยหยุดทรมานเสือได้บุญกุศลแรง

     ผู้ที่นำภาพเสือไปติดหน้าบ้านนั้น บ้านตรงกันข้ามก็จะได้รับผลกระทบแน่นอน จากการที่เห็นภาพเสือทุกวันๆ ก็จะเกิดความเครียดขึ้น

     มีข้อห้ามสำหรับบ้านที่ไม่ควรติดหัวเสือโดยเด็ดขาดคือ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้ เด็กวัยรุ่นภายในบ้านไม่แข็งแรง สุขภาพไม่ดี ใจแตก เพราะเสือนั้นจะทำร้ายคนในบ้านเอง เนื่องเพราะ บ้านเป็นธาตุดิน เสือธาตุไม้ จึงพิฆาตดิน อีกทิศก็คือ บ้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะทำให้ แม่หรือผู้หญิงภายในบ่านป่วยบ่อย สุขภาพไม่แข็งแรง แท้งลูกง่าย ผู้หญิงไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องเพราะ ธาตุไม้ของเสือทำร้ายธาตุดินของบ้านเช่นกัน

     เสือไม่มีกำลังที่จะทำอะไรได้ เมื่อนำไปติดหน้าบ้านที่หันไปสู่ทิศตะวันออก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะถูกธาตุทองของบ้านควบคุมไว้ ส่วนทิศที่เหลือนั้นติดได้

     ข้อสังเกต เป็นความผิดพลาดของคนไทยเรา คือ “เสือคาบดาบ” บันทึกของลู่ปังกล่าวไว้ว่า ภาพเสือไม่มีอะไรคาบไว้ เป็นภาพเสือเฉยๆเท่านั้น แต่เสือคาบดาบที่คนไทยใช้อยู่ทุกวันนี้ไม่มีที่มา แล้วผู้คนก็พากันเฮโลตามกันไปโดยไม่มีเหตุผล เป็นความซาดิสต์ของใครบางคน ที่ออกแบบเลียนแบบภาพราหูอมจันทร์ แล้วเปลี่ยนพระจันทร์เป็นดาบแทน หลังจากนั้นมีนักฮวงจุ้ยที่ไม่เข้าใจ คิดว่าของสิ่งนี้แหละบันดาลโชคลาภได้

สุดยอดของวิชาฮวงจุ้ยว่าไว้ว่า “อู่เอ้งปิกอู่ขี” (มีลักษณะก็จะเกิดพลัง) มีความหมายว่า ที่ใดมีลักษณะอย่างไร ก็จะเกิดอย่างนั้น มีภาพเทพเจ้าที่มีความเมตตากรุณาอยู่ด้านหน้าทุกวัน ก็จะเกิด นะเมตตาขึ้นกับผู้ที่ได้พบเห็น ถ้าเกิดมีของแหลมจี้อยู่ที่ตา เราก็จะเกิดอาการเสียวแปล๊บๆด้วย นั้นเป็นพลังจากลักษณะที่เกิด ถ้าจะอาศัยพลังของเสือ เสือต้องไม่บาดเจ็บ โดยเฉพาะเสือที่มีดาบเสียบอยู่ มีบางคนกล่าวไว้ว่า ติดเสือคาบดาบแล้ว บางครั้งจะได้ยินเสือร้องโฮกๆ ตอนกลางคืน แสดงว่ามีอิทธิฤทธิ์ แต่ความจริงเสือมันเจ็บมันถึงได้ร้องขึ้น ทดสอบได้ง่ายๆ โดยใครก็ได้ลองคาบดาบดูว่ายังสบายดีอยู่รึเปล่า

     บัดนี้ได้โอกาสแล้วที่คนไทยทุกคน จะหยุดยั้งความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลซะที เพราะในวิชาฮวงจุ้ย(ของแท้) กล่าวว่า เสือคาบดาบนั้น ตัวเสอบาดเจ็บมาก เป็นการทำร้ายเสือ ผู้ที่เกิดปีเสือ ถ้านำภาพเสือคาบดาบมาใช้ ก็เท่ากับทำร้ายปีเกิดของตัวเอง ไม่มีเสือตัวไหนจะทนทานเหล็กโลหะที่คาบอยู่ในปากได้ ช่วยหยุด!!และคืนตวามเป็นอิสระให้กับเสือเสียที ขอวิงวอนให้ผู้ที่ทำรูปเสือคาบดาบนั้น เลิกและถอนดาบออกจากปากเสือจะเป็นบุญกุศลเป็นอย่างมาก

     อย่างน้อยดวงเมืองไทยของเราก็เป็นปีเสือเหมือนกัน ถ้าเรามาช่วยกันแล้ว เมืองไทยจะฟื้นเร็วขึ้นอย่างแน่นอน

สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

แนะนำฮวงจุ้ย


แนะนำฮวงจุ้ย
'ฮวงจุ้ย' ในภาษาจีน แปลว่า ลม และ น้ำ เป็นวิทยาศาสตร์ของจีนโบราณที่มีมากว่า 4 พันปีซึ่งมีรากฐานมาจากปรัชญาของจีน ที่ว่า ทุกสิ่งในสากลโลกนี้จะประกอบด้วยธาตุพื้นฐาน 5 ธาตุ คือ ทอง น้ำ ไม้ ไฟ และ ดิน แต่ละธาตุจะมีทั้งพลังหยิน ( negative energy)และพลังหยาง ( positive energy) ดังนั้น ฮวงจุ้ย จึงเป็นวิชาที่ช่วยให้เราจัดสภาพแวดล้อมที่ก่อเกิดความสมดุลของธาตุเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตมีความสุขทั้งทางกาย(มั่งคั่ง,สุขภาพ)และจิตใจ (- อาจารย์ไอรีน ออง )
ดังนั้นฮวงจุ้ยจึงไม่ใช่วิชาไสยศาสตร์แต่เป็นวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการพิสูจน์ มาแล้วนับพันปี ดังที่เราประจักษ์อยู่แล้วกับความยิ่งใหญ่ของประเทศต้นกำเนิดฮวง จุ้ย(จีน)ว่ายังคงยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมานับปัจจุบัน แม้ว่าปัจจุบันจะมีออกมาหลายสำนัก หลายแนวทางให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาและใช้บริการต่างๆ แต่ทุกสำนักล้วนมีสิ่งยึดมั่นที่เหมือนกันก็คือไม่ทิ้งหลักปรัชญาดั้งเดิม นั่นคือเรื่องความสมดุลของธาตุ เพียงแต่เนื้อหาสาระการให้ความสำคัญในแต่ละวิชาของฮวงจุ้ยนั้นอาจแตกต่างกัน ไปเพราะฮวงจุ้ยเองมีหลากหลายวิชาที่ตกทอดกัน ตัวเราเองผู้ที่สนใจในศาสตร์ฮวงจุ้ยและอยากจะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันจึงควร ใช้วิจารณญาณและพิสูจน์ด้วยตนเอง ซึ่งหลักการง่ายๆที่กนกอรเองได้รับการถ่ายทอดมาจาก อาจารย์ไอรีน และ อาจารย์ทรัพย์ ที่น่าสนใจคือ หลักการไหนที่นำมาใช้แล้วได้ผล หลักการนั้นเป็นจริง จึงอยากแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจไว้เบื้องต้น



สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877

ประวัติฮวงจุ้ย



4477 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยฮกฮีสี ได้เกิดเครื่องหมาย 8 ตัวขึ้น ( โป๊ยก่วย ) ซึ่งเป็นการบันทึกการเกิดของสภาพธรรมชาติในเรื่องของ ลม ฟ้า อากาศ
 2697 ปีก่อนค.ศ.
สมัยอึ้งตี่เกิดเข็มทิศขึ้น โดยสามารถรู้ว่าทิศเหนือจะอยู่ในตำแหน่งที่แม่เหล็กดึงไปเสมอ
ในองศาที่ 360 องศา และได้นำเครื่องหมาย 8 ตัว เข้ามาวางไว้ในตำแหน่งของเข็มทิศ เป็นที่มาของ
จานเข็มทิศ ( ล่อแก / หล่อแก )

2205 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยแฮ่อู้ (แห่อู้) สมัยจักรพรรดิเงี้ยว เกิดอุทกภัยใหญ่ขึ้น
แฮ่อู้ ให้หลักการชัยภูมิและเครื่องหมาย 8 ตัว หรือ 8 ทิศของฮกฮีสี
และอึ้งตี่ คิดแก้ระบบดึงและเก็บกักกระแสน้ำมาแก้ไขปัญหาสำเร็จได้ กลายเป็นต้นแบบระบบ ชลประทาน

1134 ปีก่อนค.ศ.
สมัยจิวบุ้นอ๊วง ได้รวบรวมเครื่องหมาย 8 ตัวมารวมเป็นคู่ ๆ
ได้ทั้งหมด 64 คู่ เกิดเป็นระบบเสี่ยงทาย ( ป๊กก่วย ) ที่แม่นยำ
นำมาใช้สำหรับการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน โดยดูจากปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
206 ปีก่อน ค.ศ.
สมัยฮั้งเกาโจ้ว วิชา ฮวงจุ้ย ได้สืบทอดมาเรื่อย ๆ ในสมัยนี้เกิดการชิงที่จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ระหว่าง เล่าปัง กับ หั่งอู้
แม่ทัพใหญ่ของจักรพรรดิจิ๋นซี

โดยเตียวเลี้ยงได้ใช้ วิชาฮวงจุ้ย สร้างสุสานทำให้เล่าปัง ซึ่งเดิมเป็นชายพเนจรกลายเป็นใหญ่ในที่สุด
วิชาฮวงจุ้ย จึงสมบูรณ์แบบในยุคนี้ และได้กำหนดให้เป็นวิชาแห่งชาติ ใช้สำหรับผู้มีศักดิ์ตระกูลเท่านั้น
ค.ศ. 1368
สมัยเม่งไท้โจว ในราชวงศ์หมิงเกิดการชิงแผ่นดินขึ้นระหว่าง
ตั้งอิ๋วเหลียง กับ จูง่วนเจียง

เล่าแป๊ะอุง กุนซือ ได้ช่วยให้จูง่วนเจียงทำการสำเร็จได้ โดยใช้วิธีการสร้าง สุสาน

แต่แผ่นดินหมิงก็ถูกล้มล้างโดยพวกแมนจู
โดยวิธีการสร้าง สุสาน เช่นกัน และพวกแมนจูก็ถูกพวกซุนยัดเซ็นล้มไปโดยวิธีการของ สุสาน


วิชาฮวงจุ้ย ประกอบไปด้วย 4 วิชาหลัก คือ
  1. ชัยภูมิ
  2. ดวงชะตา
  3. ทิศทาง ( ดาว 9 ยุค / 8 ทิศ / ... )
  4. ฤกษ์ยาม
     
โดยทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกัน หากขาดเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดก็จะสัมฤทธิ์ผลได้ยาก
และการปรับ ดวงชะตา ด้วยวิชาฮวงจุ้ยนั้นมีมาตั้งแต่แรก

ดังจะเห็นได้ จากกรณีของเล่าปัง และหั่งอู้ หรือกรณีของ ตั้งอิ๋วเหลียง กับจูง่วนเจียง ล้วนแต่ใช้สุสานเป็นส่วนเสริม ดวงชะตา ให้ดีขึ้นมาได้
ในปัจจุบัน เราอาจสามารถ ปรับดวงชะตา ได้จาก ทิศหลังบ้าน ทิศหัวนอน ทิศอิงโต๊ะทำงาน หรือการตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทิศที่ดวงต้องการ และการจัดหรือ ปรับสภาพต่าง ๆ ต้องสอดคล้อง
กับชีวิตประจำวัน จึงจะถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดีและถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม วิชาฮวงจุ้ย เป็นเพียงส่วนประกอบของความสำเร็จส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้น
ดังคำกล่าวที่ว่า

1. อิก เต็ก ( คุณธรรม - คิดดี )
2. ยี่ เห็ง ( จริยธรรม - ทำดี )
3. ซา ฮวงจุ้ย ( อยู่ดี )
สนใจสินค้าเสริมดวงชะตา ติดต่อ 038-455381  089-4034877